ก่อนอื่นเรามาดูที่ ประกัน ชั้น 1 กันก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามีราคาสูงที่สุดแต่ให้ความคุ้มครองมากที่สุด ประกันรถยนต์มีหลายบริษัทที่กำหนดราคาประกันไว้แตกต่างกัน เกณฑ์ในการเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์จึงเป็นอีกเรื่องที่ต้องศึกษาเพื่อให้จ่ายแล้วคุ้มและขับรถสบายใจ โดยสิ่งที่เป็นพื้นฐานก่อนการเลือกบริษัทประกันภัยรถยนต์นั่นก็คือ เลือกบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ และมีข้อเสนอเบี้ยประกันรถยนต์ที่ตรงใจคุณที่สุด

ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ของ AIS เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเพราะราคาอยู่ในระดับกลางค่อนข้างต่ำ เช่น กรณีคุณขับ Honda Accord รุ่นใหม่ จ่ายค่าประกันขับดี FlexiDrive ปีละ 15,000 บาท ให้ความคุ้มครองคุ้มค่าทั้งคนขับ คนนั่งมาด้วย และความเสียหายของรถยนต์ ไม่ว่าจะกรณีเกิดอุบัติเหตุ หรือ รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ประกันรถยนต์จ่ายให้ หมดปัญหาด้านสภาพคล่องทางการเงิน แต่ประกันรถยนต์เองก็มีหลายบริษัท และมีแบบอื่นให้เลือกอีกหลายแบบ แล้วแต่คุณจะพิจารณาว่ารถคุณและลักษณะการขับขี่เหมาะกับแบบไหนที่สุด

   หาก ประกัน ชั้น 1 ยังไม่ตอบโจทย์ เช่น อายุรถเกิน หรือต้องการลดงบประมาณ ก็ยังมีประกัน ชั้น 2 (เพิ่มเติม: https://www.add-digital.co.th/motor/easyeasy-type2plus3plus) ให้เลือก คุ้มครองผู้ขับทั้งกรณีเสียชีวิตและบาดเจ็บ แต่ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมรถของผู้ขับขี่ หากรถคุณค่อนข้างเก่าแล้ว ตัวเลือกนี้ก็น่าพอใจเหมือนกัน ประกันยังคุ้มครองคู่กรณีทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บ รวมถึงค่าซ่อมแซมของรถคู่กรณีด้วย ส่วนรถสูญหาย ไฟไหม้ หรือน้ำท่วม ก็คุ้มครองเช่นกัน ราคาประกันจะลดลงมากพอสมควร โดยทาง AIS มีตัวเลือกเป็นประกันชั้น 1 และ 2+ สำหรับคนขับดี ขับน้อย เบี้ยเริ่มต้นเพียง 3,299 บาท/ปี เท่านั้น หรือปกติคุณเป็นคนขับรถดี ไม่เคยเคลม แถมยังโชคดีแทบไม่มีอุบัติเหตุเลยด้วยซ้ำ ทำประกันชั้น 1 แล้วรู้สึกไม่คุ้ม เลือกประกันชั้น 2 ก็พอ แต่ถ้าต้องการความคุ้มครองซ่อมรถยนต์เราเองด้วย ก็ขยับอีกนิด เลือกแบบ 2+

   ในกรณีที่ต้องการประกันชั้น 3 เป็นตัวเลือกสำหรับคนไม่ค่อยขับรถหรือรถเก่ามากแล้ว ประกันชั้น 3 คล้ายประกันชั้น 2 แต่ไม่ได้คุ้มครองรถยนต์สูญหายไฟไหม้ อีกทั้งทุนประกันน้อยกว่า ราคาประกันก็ประมาณ 1,900-2,200 บาท/ปี เช่น แอกซ่า 2,900 บาท วิริยะ 2,500 บาท เมืองไทยประกันภัย 1,900 บาท ถือว่าราคาถูกและความคุ้มครองไม่เยอะ เหมาะกับรถยนต์ที่อายุ 10 ปีขึ้นไป และไม่ค่อยได้ขับใช้งาน ถ้าเรามือเก๋าขับรถเก่งด้วย ก็ไม่ต้องจ่ายประกันแพง ๆ ลดภาระไปได้เยอะ หรือจะเลือก 3+ เพื่อให้คุ้มครองรถยนต์เราด้วย ก็จ่ายเพิ่มอีกไม่มาก

   คนขับรถส่วนใหญ่จะรู้ตัวเองว่าขับรถอย่างไร ทำประกันระดับไหนจึงคุ้ม ไม่ว่า ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 , 2 หรือ 3 มีทำไว้สักฉบับ ก็ทำให้ขับรถอุ่นใจขึ้นเยอะ ทั้งนี้ประกันชั้น 2 และ ประกันชั้น 3 จะคุ้มครองรถยนต์เฉพาะคู่กรณีเท่านั้น แต่ก็ยังคุ้มครองชีวิตและอนามัยทั้ง 2 ฝ่าย เป็นคุณที่ต้องตัดสินใจเองว่าจะเลือกประกันแบบไหนให้เหมาะกับรถและการใช้รถของคุณเอง

ที่มาข้อมูล
https://www.add-digital.co.th/motor/kubdee
https://www.mrkumka.com/article/insurance-tips/car-insurance-company-recommend/
https://promotions.co.th/โปรโมชั่นอื่น ๆ /insurance/where-is-the-best-first-class-car-insurance-2021-with-the-best-price.html

   การสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตถือเป็นเป้าหมายหนึ่งที่ทุกคนต้องปักหมุดให้กับตัวเองเพื่อจะได้ใช้ชีวิตยามเกษียณได้อย่างมีความสุข สิ่งหนึ่งที่สามารถช่วยให้เป้าหมายข้อนี้สำเร็จด้วยดีคือการมี อาชีพเสริม กันตั้งแต่วันนี้ ใครที่มีงานประจำอยู่แล้วจึงไม่ควรพลาดโอกาสในการ อาชีพเสริมหลังเลิกงาน ซึ่งวันนี้จะมาแจกแจงเหตุผลสำคัญของการทำ อาชีพเสริม เพื่อเติมเต็มคุณภาพชีวิตให้ดีได้ในทุกวันกัน

- การทำอาชีพเสริมทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากหลาย ๆ ทาง ยิ่งคนที่มีงานประจำแล้วขยัน หารายได้เสริมอยู่บ้าน ด้วยแล้ว ในแต่ละเดือนก็จะยิ่งมีเงินในกระเป๋าเยอะขึ้นไปอีก ทำให้มีทั้งเงินออมและเงินเหลือเอาไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่อยากจะได้ด้วย

- ใครที่มีงานประจำทำอยู่แล้ว การมีงานเสริมหลังเลิกงานด้วยถือเป็นการฝึกฝนในเรื่องการบริหารเวลาได้เป็นอย่างดี เพราะจะต้องรู้จักการวางแผนในการทำงานเสริมที่ไม่กระทบกับงานประจำ ยกตัวอย่างเช่น การใช้เวลาหลังเลิกงานไปขับ GrabFood นอกจากไม่ทำให้เสียงาน ยังเป็นการ หารายได้พิเศษ เติมเงินในกระเป๋าได้ด้วย

- การทำงานประจำควบคู่ไปกับการทำงานเสริม ถือเป็นการฝึกฝนความอดทนอย่างหนึ่ง เพราะเราต้องรักษางานประจำไว้ไม่ให้เสียหาย ขณะเดียวกันการทำงานเสริมอย่างต่อเนื่องทำให้รู้จักการมีวินัยและเสริมสร้างความอดทนในเวลาเดียวกัน ทำให้ได้ผลลัพธ์คือสุขภาพกายและสุขภาพเงินมีความแข็งแรง

- เป็นการเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ฉุกเฉิน อย่างเหตุการณ์โควิด – 19 ระบาดเมื่อ 2 – 3 ปีที่ผ่านมาที่ทำให้ตระหนักได้ว่าอาชีพหลักอาชีพเดียวไม่ใช่ทางรอดอีกต่อไป การมีอาชีพเสริมจึงกลายเป็นคำตอบของการพร้อมรับกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยหากวันใดวันหนึ่งต้องตกงานโดยไม่รู้ตัว อาชีพเสริมจะเป็นทางออกสำหรับความมั่นคงในชีวิตต่อไป

- อาชีพเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่ให้คุณได้เรียนรู้และลองผิดลองถูก เพราะงานประจำมักมีระบบหรือแบบแผนให้ดำเนินการอยู่แล้ว ต่างจากอาชีพเสริมที่มีความอิสระในการเลือกทำ อย่างเช่น งานประจำทำฝ่ายผลิตแต่ชีวิตจริงชอบขายของมากกว่า เราก็สามารถเลือกงานขายของออนไลน์เป็นอาชีพเสริมได้ จะได้ลองผิดลองถูกในวิธีการขายไม่ก็การวางแผนการตลาด นอกจากได้ประสบการณ์ชีวิตยัง อยู่บ้านอยากมีรายได้ ก็สามารถทำได้อีกด้วย

- หลายคนที่มีงานประจำทำอาจได้รับหน้าที่ความรับผิดชอบที่ไม่ถูกจริตกับตัวตนของเรา แต่การมีอาชีพเสริมสามารถสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองได้ เพราะอาชีพเสริมนอกจากสามารถ หารายได้พิเศษ ได้แล้ว ยังเป็นสามารถเลือกทำได้ตามความชื่นชอบหรือความถนัดที่เราเพิ่งค้นพบจากการลองทำหลาย ๆ อย่างก็ได้

- อาชีพเสริมถือเป็นการค้นพบตัวเองทางหนึ่ง  เพราะมีหลากหลายประเภทให้เลือกทำในขณะที่บางคนอาจยังไม่มั่นใจว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ ก็ได้ทำหลายอาชีพเพื่อค้นพบความชอบของตนเอง อย่างเช่น ชอบถ่ายภาพก็เลือกการทำภาพถ่ายขาย เป็นคนชอบกินก็เลือกทำอาชีพเสริมเป็นการรีวิวร้านอาหาร นอกจากได้กินของอร่อย ๆ แล้ว อยู่บ้านอยากมีรายได้ ก็ทำได้ผ่านการรับจ้างรีวิวได้อีกด้วย

         อาชีพเสริมมาพร้อมกับข้อดีหลากหลายเพียงบริหารเวลาเป็น มีความตั้งใจ ก็ประสบความสำเร็จสร้างรายได้ สร้างชีวิตที่มั่นคงได้ ซึ่งหากใครกำลังมองหาอาชีพเสริมที่เลือกได้ ขอแนะนำ Grab ที่มีให้เลือกได้ทั้ง GrabFood, GrabDriver, GrabCar หรือ GrabBike ที่สามารถเลือกทำได้ตามความถนัดและความชื่นชอบของแต่ละคน

คอนโดมิเนียมเป็นรูปแบบที่อยู่อาศัยที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามใช่ว่าคอนโดทุกแห่งจะได้รับการตอบรับดีเสมอไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยเรื่องของราคาและทำเลที่ตั้งโครงการด้วย หนึ่งโครงการคอนโดมิเนียมที่กระแสดีตั้งแต่เริ่มเปิดตัวโครงการก็คือ เดอะ มูฟ บางนา เป็นคอนโด บางนาที่โดดเด่นมากในเรื่องของทำเลที่ตั้ง เพราะอยู่ใกล้กับเซ็นทรัลพลาซา บางนา เดินทางไปถึงได้เพียงระยะเวลาไม่เกิน 5 นาที นอกจากจะอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าแล้ว หาคอนโดโครงการนี้ยังอยู่ใกล้ร้านเด่นคาเฟ่ดังที่น่าไปสั่งเครื่องดื่มรสชาติดีมาลิ้มลองด้วย และครั้งนี้เราจะชวนชาวบางนาทุกท่านมาชิมกาแฟแบบล้านนากัน

ละเลียดกาแฟไปพร้อมดื่มด่ำกลิ่นอายแบบล้านนาที่ Cafe at Chiang Mai
หากคุณเป็นหนึ่งที่หลงใหลความเป็นวินเทจและกลิ่นอายที่ดูย้อนยุคสไตล์ล้านนา เชื่อเลยว่าคุณจะต้องชอบร้านคาเฟ่แห่งนี้แน่ ร้านนี้มีชื่อว่า Cafe at Chiang Mai ที่ตัวร้านไม่ได้อยู่เชียงใหม่ แต่อยู่ในย่านบางนา ซึ่งจากคอนโด บางนา โครงการเดอะ มูฟ บางนาถือว่าเดินทางได้สะดวกมาก เนื่องจากคาเฟ่แห่งนี้อยู่ห่างจากโครงการแค่เพียง 3.8 กิโลเมตร จากคอนโดใช้เวลามาถึงร้านแค่เพียง 6-7 นาทีเท่านั้นเอง จะมาวันไหนก็สะดวกทุกวัน ร้านแห่งนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสรสชาติและกลิ่นอายของความเป็นล้านนาแบบชาวเชียงใหม่ได้ง่าย ๆ ในแบบที่คุณไม่ต้องเดินทางไปถึงเชียงใหม่ให้เสียเวลา

คาเฟ่แห่งนี้มีการตกแต่งร้านได้ดูทันสมัยและน่าสนใจ มีการผสมผสานความเป็นโมเดิร์นและดึงเอาความเป็นมินิมอลแบบย้อนยุคมาใช้ร่วมกัน มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ดูดี เฟอร์นิเจอร์ก็จะใช้เป็นแบบสไตล์ไม้โบราณ และประดับประดาร้านได้น่าสนใจไม่น้อย ทำให้ภาพรวมออกมามีกลิ่นอายแบบล้านนาที่ค่อนข้างชัดเจนทีเดียว ซึ่งการตกแต่งร้านแบบนี้ก็กลายเป็นเสน่ห์ที่ชวนให้ทุกคนอยากใช้เวลาไปกับเครื่องดื่มเมนูกาแฟดี ๆ สักแก้วจริง ๆ

เครื่องดื่มรสชาติเข้มข้นที่ชวนให้ลอง
ลองมาดูในส่วนของเมนูที่น่าสนใจของทางร้าน Cafe at Chiang Mai กันบ้าง หากคุณต้องการสัมผัสรสชาติกาแฟทางเหนือของไทย ได้รสชาติกาแฟแบบเชียงใหม่แท้ ๆ แนะนำให้คุณลองสั่งเป็นอเมริกาโน่เย็น ทางร้านใช้เมล็ดกาแฟที่ปลูกจากเชียงใหม่เลย ได้ความเข้มข้นถึงใจแน่นอน และยังมีเมนูชามะนาวอีกอย่างที่รสชาติดี ได้ความเปรี้ยวในแบบที่กำลังพอดี นอกจากนั้นแล้วเมนูชาเขียวก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจ เพราะใช้เป็นชาวเขียวมัทฉะแบบพรีเมียม ได้ทั้งความหอมและรสชาติที่กลมกล่อมลงตัว แต่ละเมนูเครื่องดื่มของร้านนี้ต้องบอกเลยไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ

ใครที่อยู่ที่คอนโด บางนา โครงการเดอะ มูฟ บางนาถือว่าโชคดีมาก เพราะอยู่ใกล้กับร้านคาเฟ่ดี ๆ แบบนี้ ช่วยให้คุณพบเครื่องดื่มรสชาติดี มีกลิ่นอายล้านนาได้ในแบบที่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปเชียงใหม่ หากอยากรู้แล้วว่ารสชาติจะดีแค่ไหน ขอชวนทุกคนไปลิ้มลองกันได้เลย  แต่อย่าลืมบ้าน บางนาและบ้านแฝด บางนาของแสนสิริด้วยนะ

เปลี่ยนการออมเงินให้เป็นเรื่องที่ไม่ยากอีกต่อไป เพราะตอนนี้เราสามารถเปิดบัญชีออนไลน์ สะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องไปต่อคิวที่ธนาคารอีกต่อไป ซึ่งง่ายแสนง่ายไม่กี่ขั้นตอน เพียงแค่เรามีสมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา มาดูวิธีกันเลย

วิธีการเปิดบัญชีออมทรัพย์ กรุงไทย แบบง่ายๆ
ขั้นตอนในการเปิดใช้บริการบัญชีธนาคารออนไลน์ KTB นั้น สิ่งที่เราต้องเตรียมก็คือข้อมูลบัตรประชาชนเพียงใบเดียว แล้วเข้าแอปพลิเคชั่นธนาคารกรุงไทยเลย
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT สามารถโหลดได้ทั้งโทรศัพท์ระบบ Android และ IOS เมื่อโหลดแล้วก็เข้าไปในแอปพลิเคชันเพื่อใช้งานในขั้นตอนต่อไป
เลือกเมนู “เปิดบัญชีออนไลน์” ที่หน้าจอแอปพลิเคชัน ซึ่งระบบจะให้อ่านรายละเอียดการเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์จากนั้นกดปุ่ม “เปิดบัญชี” และทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ โดยในส่วนนี้จะต้องใส่อีเมลที่สามารถติดต่อได้และสามารถเลือกสาขาที่จะเปิดบัญชีได้เองตามความต้องการ
เตรียมบัตรประชาชนเพื่อกรอกเลขรหัสหลังบัตรลงไป โดยมั่นใจว่าจะปลอดภัยได้เพราะแอปพลิเคชันมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความปลอดภัยสูงเชื่อถือได้
ขั้นตอนต่อมาคือขั้นตอนของการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลด้วยการสแกนใบหน้า ระบบจะถ่ายภาพใบหน้าของผู้ใช้ในกรอบที่กำหนด และทำการตรวจสอบใบหน้าจนสำเร็จว่าคือเจ้าของบัตรตัวจริง
ขั้นตอนสุดท้ายคือการกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อาชีพ วัตถุประสงค์ของการเปิดบัญชี เมื่อกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วกดยืนยันเพื่อทำการ ยืนยันตัวตนเปิดบัญชีออนไลน์ง่ายๆ สำหรับใครที่ไม่ได้อยากเปิดบัญชีที่ธนาคาร

ข้อดีของการเปิดเปิดบัญชีออนไลน์ กรุงไทย
สะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะไม่ต้องเดินทางไปที่ธนาคารก็สามารถเปิดบัญชีได้ทันทีที่ต้องการ
ปลอดภัยด้วยระบบการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล (NDID) โดยระบบจะทำการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าที่มีความปลอดภัยสูง และที่สำคัญหากเคยยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลสำเร็จไปแล้วหนึ่งครั้งจะสามารถใช้ข้อมูล NDID ในการเปิดบัญชีครั้งต่อไปเพิ่มเติมได้ทันทีโดยไม่ต้องทำการยืนยันตัวตนใหม่ และยังใช้ข้อมูลส่วนนี้ในการสมัครหรือใช้บริการต่าง ๆ จากองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนอื่น ๆ ผ่านแอปพลิเคชันที่ต้องมีการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัลได้ด้วย
เปิดบัญชีออมเงินออนไลน์ ได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ในการใช้บริการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล ไม่ต้องเสียค่าบริการ ไม่ต้องฝากเงินขั้นต่ำเพื่อเปิดบัญชี และไม่ต้องทำบัตร ATM

เพียงไม่กี่ขั้นตอนง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถจัดการเกี่ยวกับ เงินฝากออนไลน์ ได้จากทุกสถานที่ เหมาะกับความสะดวกสบายของเทคโนโลยีที่พัฒนาไปข้างหน้าอย่างไม่มีสิ้นสุด สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เปิดบัญชี เลยที่ https://krungthai.com/th/content/personal/krungthai-next/open-account หรือวิธีออมเงินแบบไหนดี อ่านเลย   https://krungthai.com/th/financial-partner/learn-financial/1219

      น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ถือเป็นไขมันจากธรรมชาติที่คนไทยคุ้นเคยกันมานาน วิธีการสกัดเย็นแยกน้ำมันจากเนื้อมะพร้าวโดยไม่ผ่านกระบวนการความร้อนสูงและการแปรรูปทางเคมีจึงคงความบริสุทธิ์และอุดมด้วยวิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ มีคุณประโยชน์ด้านความสวยความงามตามธรรมชาติ ส่วนจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้นมาติดตามอ่านกัน

- ช่วยลดน้ำหนัก น้ำมันมะพร้าว เป็นกรดไขมันอิ่มตัวที่มีโมเลกุลขนาดกลางซึ่งย่อยเร็วและช่วยกระตุ้นกระบวนการเมตาบอลิซึม ส่งผลให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันให้เหลือสะสมในร่างกายน้อยลง เหมาะนำมาปรุงอาหาร สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการลดความอ้วนได้ในระดับหนึ่ง วิธีใช้ง่ายมากเพียงรับประทาน 1 - 2 ช้อนโต๊ะ ก่อนมื้ออาหารเช้า-เย็น

- บำรุงผิวพรรณเพิ่มความชุ่มชื้น น้ำมันมะพร้าวอุดมด้วยวิตามินเอ ใช้ทาบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นดูเปล่งปลั่งสดใสไม่แห้งกร้าน เช่น ไอ-เนเจอร์ ครีมมะพร้าว เนื้อบางเบาและซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีวิตามินอีจากธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านให้เนียนนุ่มน่าสัมผัส โดยเฉพาะข้อศอกและหัวเข่า

- ต้านอนุมูลอิสระชะลอวัย น้ำมันมะพร้าวอุดมด้วยวิตามินอีที่มีสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกายได้ เช่น ทรอปิคานา น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นออร์แกนิก  ใช้ปรุงอาหาร หรือผสมน้ำสลัด รับประทานวันละ 3 ช้อนโต๊ะ เป็นประจำ หรือใช้หมักผมก่อนสระ เพื่อบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย มีน้ำหนัก และไม่แตกปลาย

- รักษาสิว กรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิวบนใบหน้า ทั้งยังมีวิตามินดีและวิตามินเคช่วยลดรอยแผลเป็นหลังเกิดสิว จึงนิยมนำไปเป็นส่วนผสมในยารักษาสิว สามารถใช้ได้ทุกวัน เช่น ไอ-เนเจอร์ สบู่รักษาสิวมะพร้าว  เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย เป็นสิวอักเสบ และสิบผดผื่น ใช้แล้วหน้าสะอาดพร้อมควบคุมความมันได้ดีตลอดวัน

- บรรเทาผิวที่ระคายเคืองจากแสงแดด น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ใช้ทาผิวแทนครีมกันแดดเพื่อบรรเทาปัญหาผิวไหม้จากแดดและทาผิวหลังอาบน้ำเพื่อให้รอยหมองคล้ำจากแสงแดดจางหายไป

 - ใช้เป็นคลีนซิ่งทำความสะอาดผิวหน้า น้ำมันมะพร้าวเช็ดล้างคราบเครื่องสำอางได้สะอาด พร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิวทำให้ผิวสวยใสเป็นธรรมชาติ ช่วยถนอมผิวบริเวณรอบดวงตาและริมฝีปาก อีกทั้งยังมีส่วนผสมของวิตามินอีช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว

- รักษาเชื้อราบนผิวหนังและร่องเล็บ อีกหนึ่งคุณสมบัติของน้ำมันมะพร้าวคือช่วยลดแบคทีเรียบนผิวหนังและเพิ่มความชุ่มชื้น โดยใช้ทาวันละ 2 ครั้ง รักษาการติดเชื้อบนผิวหนังและร่องเล็บได้

- รักษารังแคและเชื้อราบนหนังศีรษะ น้ำมันมะพร้าว มีคุณสมบัติช่วยขจัดรังแคและบำรุงรากผมให้แข็งแรง เช่น เขาค้อ น้ำมันบริสุทธิ์สกัดเย็น ใช้รับประทาน ทาบำรุงผิว เช็ดล้างเครื่องสำอาง และหมักผมให้นุ่มสลวยพร้อมป้องกันรังแคได้
- บำรุงผิวแก้ปัญหาส้นเท้าแตก ใช้ครีมมะพร้าวหรือน้ำมันมะพร้าวทานวดคลึงให้ซึมเข้าไปในผิวหนังทุกวันก่อนนอนแล้วทิ้งไว้ข้ามคืนประมาณ 1 สัปดาห์ หรือบ่อยครั้งตามต้องการ จะช่วยแก้ปัญหาส้นเท้าแตกได้
- ลดอาการระคายเคืองและรักษาโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการคัน ผื่นแดง ผิวแห้งตกสะเก็ด อีกทั้งยังสามารถลดการติดเชื้อที่ผิวหนังพร้อมช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อีกด้วย

        น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมีประโยชน์รอบด้านและใช้ได้อย่างปลอดภัยทั้งรับประทานและทาภายนอก หากสนใจอยากหาผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวมาลองใช้ สามารถเข้าไปเลือกช้อปกันได้ทางวัตสันออนไลน์ และยังจะได้พบกับโปรโมชั่นจากวัตสันที่ช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการช้อปสินค้า โดยเฉพาะ โปรวัตสัน 1 แถม 1 ล่าสุด มีโปรซื้อคละ 3 ชิ้น ราคาเดียว และโปรซื้อสินค้าในร้าน วัตสันชิ้นที่ 2 1 บาท ยิ่งซื้อเยอะยิ่งได้รับส่วนลดมาก สินค้าบางรายการมีจำนวนจำกัด อย่ารอช้ารีบไปช้อปกันตอนนี้โดยเข้าไปที่ https://www.watsons.co.th/ มีทั้งครีมทาหน้าและครีมทาผิวยอดนิยมอย่างนีเวีย และ นัมจู

จุดประสงค์ในการซื้อรถยนต์ของแต่ละคนมีหลายเหตุผล บางคนซื้อเพราะอยากมีรถป็นของตัวเอง บางคนซื้อเพื่อความสะดวกในการเดินทางไปทำงาน บางคนซื้อเพราะอยากพาเพื่อนฝูงหรือครอบครัวไปเที่ยว ทำให้ปริมาณการใช้รถของแต่ละคนไม่เท่ากัน คนที่ใช้รถเยอะ ใช้รถบ่อยการทำ ประกันชั้น 1 ก็ดูจะเป็นการสมเหตุสมผลเมื่อเปรียบเทียบระหว่างความถี่ของการใช้ กับการรับประกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการขับขี่ แล้วถ้าเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ใช้รถ เลือกทำ ประกันชั้น 1 คุ้มไหม

ประกันภัยรถยนต์คืออะไร
ประกันภัยรถยนต์ คือการประกันความสูญเสียหรือเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ บุคคลที่โดยสารอยู่ในรถยนต์นั้น รวมถึงความสูญเสียหรือเสียหายที่รถยนต์ก่อให้เกิดขึ้นกับชีวิต ร่างกาย อนามัย และ ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก โดยบริษัทประกันจะเป็นผู้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
การประกันภัยรถยนต์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1) การประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ซึ่งก็คือ พรบ. และ
2) การประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งปัจจุบันมี 5 แบบ ได้แก่ ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2 พลัส ประกันชั้น 2 ประกันชั้น 3 พลัส และ ประกันรถชั้น 3
ซึ่งประกันแต่ละประเภทจะมีเงื่อนไขกำหนดในเรื่องความคุ้มครองความเสียหาย และเงื่อนไขอายุรถยนต์ในการรับประกันที่ต่างกัน นอกจากนี้บางบริษัทก็ยังมีแบบประกันที่ออกมาเพื่อรองรับกับการใช้รถน้อย ขับไม่บ่อย หรือแม้แต่การรับประกันเฉพาะกรณีที่ขับขี่เท่านั้น เป็นต้น ซึ่งแบบประกันเหล่านี้ก็ดูจะตอบโจทย์คนที่ใช้รถไม่บ่อย จอดมากกว่าขับขี่นั่นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นควรอ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขความคุ้มครองให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ

รถใช้งานน้อย ไมล์ไม่มาก เลือกทำ ประกันชั้น 1 คุ้มไหม
   หลายคนใช้รถน้อย ไม่ค่อยได้ขับ พอจะต่อประกันจะเริ่มรู้สึกว่าประกันชั้น 1 เบี้ยประกันดูจะแพงไปและรู้สึกเกินความจำเป็น ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่เราพอจะเข้าใจได้  เพราะเบี้ยประกันชั้น 1 กับเบี้ย ประกันชั้น 2 ของ SCB Protect นั้นก็ต่างกันหลักพัน บางบริษัทก็หลายพัน และความคุ้มครองต่างกัน คือ ประกันชั้น 2 ไม่ครอบคลุมรถผู้เอาประกันกรณีที่ชน และไม่คุ้มครองกรณีน้ำท่วม พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือประกันชั้น 2 เราต้องซ่อมรถของเราเอง ในกรณีแบบนี้ต้องพิจารณา  2 ประเด็นคือ
-   เรามีความสามารถในการซ่อมรถเองไหมหากเกิดอุบัติเหตุ กรณีนี้ควรคิดเผื่อว่าเป็นอุบัติเหตุใหญ่ที่ต้องซ่อมหนัก เราจ่ายเองไหวหรือไม่
-   รถยนต์เรามีโอกาสเสี่ยงกับน้ำท่วมหรือไม่
หากพิจารณาแล้วเห็นว่า เรามีภาระมาก ยังไม่มีเงินสำรองเผื่อ และรู้สึกว่าเสี่ยงเกินไปก็ทำประกันชั้น 1 เพื่อความอุ่นใจ คือยอมจ่ายแพงครั้งเดียวเผื่อเกิดเหตุจะได้มีบริษัทประกันมารับความเสี่ยงแทนดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่หากรู้สึกว่าไม่ได้อยากจ่ายเบี้ยแพงขนาดนั้น และไม่อยากซื้อ ประกันชั้น 2 อาจจะมองหาทางเลือกอื่น เช่น ทำ ประกันชั้น 2 พลัส คือจ่ายเบี้ยลดลงมาหน่อยแต่ได้ความคุ้มครองเกือบเท่าประกันชั้น 1 ต่างกันที่ประกันชั้น 2 พลัสไม่ครอบคลุมกรณีที่ชนแบบไม่มีคู่กรณี ก็ดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย แต่ก็อย่าเซฟค่าใช้จ่ายจนต้องเลือก ประกันรถยนต์ชั้น 3 เพียงเพราะเบี้ยประกันถูกแต่เพียงอย่างเดียว เพราะประกันชั้น 3 คุ้มครองแต่รถและบุคคลภายนอก ไม่ได้คุ้มครองรถเราทุกกรณี รวมทั้งไม่คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้และน้ำท่วมอีกด้วย

   การทำประกันภัยรถยนต์ หากมีความสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้ ทำประกันชั้น 1 ดูจะอุ่นใจมากสุด อย่าไปมองว่าจ่ายแพงแล้วจะคุ้มไหม เพราะจุดประสงค์ในการทำประกันคือการทำเผื่อเกิดเหตุ เราไม่ได้ทำเพื่อให้เกิดอุบัติเหตุ การขับรถน้อย แต่ใช้รถทุกวัน ขับในระยะใกล้ๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่เสี่ยง เราขับรถดีอยู่แล้วก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเราจะไม่เกิดอุบัติเหตุ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นจากความไม่ระมัดระวังของเราและของผู้อื่น ดังนั้น การทำประกันจะคุ้มหรือไม่คุ้ม นอกจากจะพิจารณาเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายแล้ว ควรพิจารณาถึงตอนเกิดเหตุร่วมด้วย หากเรามองที่ความคุ้มครองเป็นหลักก็จะทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น

เมื่อเราเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดจนต้องเข้าโรงพยาบาล การซื้อ ประกันสุขภาพรายปี เป็นการป้องกันไว้ก่อน กรณีเกิดโรคร้ายไม่ทันตั้งตัว ประกันจะคุ้มครองทันที สำหรับกรณีเป็นผู้ป่วยนอกที่เจ็บป่วยแบบไม่ต้องนอนโรงพยาบาล สามารถเลือกทำ ประกัน สุขภาพ opd ไว้เพราะเป็นประกันที่สามารถเคลมได้ตามเงื่อนไขแบบประกันฯ การซื้อประกันไม่ว่าเป็นแบบใด ผู้ที่จะซื้อประกันจะต้องทราบเงื่อนไขประกันนั้น ๆ เสียก่อนเพื่อจะได้เข้าใจชัดเจนว่ากรณีใดบ้างที่สามารถเคลมได้ หรือเคลมไม่ได้

ประกันสุขภาพ มีกี่แบบ อะไรบ้าง
ประกันสุขภาพเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย หรือการบาดเจ็บเนื่องจากอุบัติเหตุ ทั้งโรคภัยที่พบแพทย์แล้วรับยากลับบ้านหรือโรคร้ายแรงที่จำเป็นต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ การประกันสุขภาพกลุ่ม และการประกันสุขภาพส่วนบุคคล
-ประกันสุขภาพกลุ่ม คือ ประกันที่บริษัทหรือองค์กรต่าง ๆ นิยมทำให้กับพนักงาน เรียกว่าเป็นสวัสดิการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลก็ได้ โดยทุกคนในองกรณ์จะอยู่ภายใต้กรมธรรม์เดียวกัน แต่ความคุ้มครองของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป ข้อดีหลักๆ คือค่าเบี้ยประกันต่อคนต่ำ ประหยัดกว่าการทำประกันแบบรายบุคคล
-ประกันสุขภาพเดี่ยว คือ ประกันส่วนบุคคล คุ้มครองสุขภาพให้เหมาะกับความเสี่ยงของแต่ละคนไป บางคนทำประกันตามความเสี่ยงโรคมะเร็ง หรือโรคร้ายแรงอื่นๆ ข้อดีหลักๆ คือการเลือกทำประกันคุ้มครองตามความเสี่ยงของตนเอง โดยประกันสุขภาพที่ได้รับความนิยมคือประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายก็อยู่ในกลุ่มนี้เช่นกัน

5 ข้อควรรู้ก่อนเลือกซื้อ ประกันสุขภาพรายปี
1.เช็คประวัติครอบครัวและไลฟ์สไตล์ของตนเอง
สุขภาพร่างกายไม่เพียงเกี่ยวกับเรื่องการดูแลตัวเองเท่านั้น แต่โรคที่เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรมก็อาจเป็นอันตรายได้ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันสูง โรคเบาหวาน ควรเช็คว่าในครอบครัวมีใครเคยเป็นโรคอันตรายบ้าง พร้อมกับตรวจสอบไลฟ์สไตล์ของตนเองว่ากินอาหารมีประโยชน์หรือไม่ ออกกำลังกายบ่อยแค่ไหน พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือความเครียด ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญทำให้มีอากสเกิดโรค ทำประกันสุขภาพไว้ก่อน เช่น ประกันมะเร็ง ของ AIS ซื้อประกันไว้ช่วยให้อุ่นใจยิ่งขึ้น

2.เช็คความคุ้มครองที่เหมาะสม
โรคร้ายแรงใช้เวลารักษานานและมีค่าใช้จ่ายสูง แนะนำให้ซื้อประกันไว้จะอุ่นใจยิ่งขึ้น การทำ ประกัน สุขภาพ opd สำหรับผู้ป่วยนอกให้ความคุ้มครองที่เหมาะสม แต่ก็มาพร้อมกับค่าเบี้ยประกันภัยที่สูงด้วย ควรคำนวณให้ดีว่าความคุ้มครองตรงกับความต้องการหรือไม่ในเมื่อต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันระยะยาว อีกทั้งเบี้ยประกันสุขภาพมักจะเพิ่มขึ้นตามช่วงอายุด้วย ผู้สูงอายุควรทำ ประกันมะเร็ง ที่มีโอกาสป่วยสูงเมื่ออายุมากขึ้น แนะนำให้เลือกชำระเบี้ยรายปีที่ประหยัดมากกว่าจ่ายรายเดือน

3.สำรวจการเงินวางแผนสุขภาพในระยะยาว
เมื่อคนเราอายุมากจะมีโอกาสเจ็บป่วยมากยิ่งขึ้น หากไม่ได้มีรายได้มากหรือมีเงินเก็บสะสมมาก รีบซื้อประกันเก็บไว้ทำให้มีเงินสำรองพอสำหรับค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะประกันโรคร้ายแรงอย่าง ประกันมะเร็ง ซึ่งภายหลังเกษียณหลายคนอาจไม่มีรายได้แล้ว นำเงินส่วนนี้มาใช้รักษาตัวเองได้ ไม่ต้องเบียดเบียนเงินเก็บ หรือไปกู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล

4.ทำประกันรายปีสบายใจ ไม่ต้องกลัวประกันขาด
ข้อดีของประกันสุขภาพรายปีคือจ่ายครั้งเดียวจบ ไม่เผลอลืมจ่ายเงินรายเดือนจนกลายเป็นการขาดส่งทำให้กรมธรรม์ขาด ถ้าต้องการต่ออายุสัญญาอาจต้องเจอดอกเบี้ยตามมากด้วย สิ่งสำคัญคือต้องวางแผนเก็บเงินให้ดี ถ้าเลือกจ่ายแบบรายเดือน ราย 3 เดือนหรือราย 6 เดือน ค่าเบี้ยจะแพงกว่ารายปีพอสมควร สรุปว่าเลือกจ่ายแบบรายปีได้ความคุ้มครองเท่ากันแต่จ่ายน้อยกว่า

5.คำนวณความต้องการให้เหมาะสม
การเลือก ประกันสุขภาพรายปี ต้องพิจารณาว่าต้องการความคุ้มครองอะไรบ้าง ทั้งปัจจัยเสี่ยงที่เป็นโรคหรือโรคร้ายแรงทางพันธุกรรม คำนวณว่าต้องการความคุ้มครองแบบไหนและมีวงเงินเท่าไรเพื่อให้ได้สิทธิการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุด เช่น ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย (เพิ่มเติม: https://www.add-digital.co.th/life/prueasycare) ไม่จำกัดจำนวนเงินค่ารักษาในแต่ละครั้ง หรือเลือกประกันครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเกี่ยวกับโรคมะเร็ง และโรคร้ายแรง ของ AIS เป็นต้น

สำหรับใครที่สนใจอยากซื้อประกันสุขภาพรายปี หากยังมีข้อสงสัยว่าประกันแบบไหนที่มีความคุ้มครองครอบคลุมและตรงกันความต้องการของตนเองจริง ต้องเช็คข้อมูลจากตัวแทนขายประกันให้เต็มที่และเลือกแผนประกันที่คุ้มกับเงินที่จ่ายไปมากที่สุด

ที่มาข้อมูล:
-https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/knowledge/article/52-4-things-to-know-before-buying-a-health-insurance
-https://www.ddproperty.com/คู่มือซื้อขาย/10-คำถามต้องรู้-ก่อนซื้อประกันสุขภาพ-25214
-https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/knowledge/article/53-how-to-choose-a-health-insurance-with-lump-sum-benefits
-https://www.southeastlife.co.th/blog/detail/health-insurance-and-types